หลังจากที่เราได้เรียนรู้ เรื่องค่าดัชนีมวลกาย (BMI) สูตรคำนวณที่เป็นตัวคัดกรองสุขภาพเบื้อต้น สำหรับคนทั่วไป ว่าร่างกายนั้นมีน้ำหนักตัวตามค่ามาตรฐานขั้นไหน ผอมหรืออ้วนเกินไปหรือไม่ และควรปฏิบัติตัว ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปแล้ว
สำหรับคนที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน ก็คงอยากจะวางแผนการลดน้ำหนักแล้วใช่ไหม อย่างที่รู้กันดีว่า การลดน้ำหนักนั้น หัวใจอยู่ที่การปรับสมดุลการใช้พลังงาน และการรับพลังงาน แต่เราจะเช็คได้อย่างไรว่า พลังงานจากอาหารที่เรากินเข้าไปนั้น เหมาะสมกับพลังงานที่ร่างกายต้องใช้หรือไม่
ส่วนแรกของเครื่องคำนวณ จะคำนวณค่าพลังงานเพียวๆ (BMR) คือเครื่องคำนวณที่จะช่วยบอกค่าการใช้พลังงานพื้นฐานที่ร่างกายต้องใช้ ซึ่งเป็นพลังงานที่ใช้กับระบบอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย เป็นพลังงานที่นอนเฉยๆ ก็ต้องใช้
ส่วนที่ 2 เครื่องคำนวณจะแสดงผลค่าพลังงานที่ร่างกายต้องใช้จากกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน (TDEE) ซึ่งเป็นพลังงานที่ใช้ในกิจกรรมต่างๆ เพิ่มขึ้นมาจากค่าพลังงานเพียวๆ (BMR) เช่น ขยับ เคลื่อนร่างกาย เล่นกีฬา หรือ ทำกิจกรรมต่างๆ
เมื่อได้ทั้งค่า BMR และ TDEE แล้ว จึงนำค่านั้นมาคำนวณ รวมกับเป้าหมายน้ำหนักที่ต้องการลดร่วมกับระยะเวลา ให้ได้พลังงานที่เหมาะสมกับความต้องการการใช้พลังงานอย่างแท้จริง เป็นเครื่องคำนวนณนี้จึงเครื่องมือที่ทำให้เราสามารถวางแผนภาพรวมของพลังงาน และจัดสรร เพิ่มหรือลด การรับและการใช้พลังงานได้อย่างเหมาะสม ถูกต้อง ไม่หักโหมลดอาหาร หรือออกกำลังกายหนักเกินความจำเป็น
เครื่องคำนวณนี้ทำขึ้นมาจากสูตรคำนวณทางคณิตศาตร์ อาจมีความคลาดเคลื่อน และยังสารารถแปรผันได้ตามสภาพร่างกาย การป้อนข้อมูลลงไปในเครื่องคำนวณ เช่น จำนวนวันไม่สอดคล้องกับปริมาณน้ำหนักที่ต้องการลด ทำให้เครื่องคำนวณแสดงค่าผิดเพี้ยน หรือ แนะนำให้ลดพลังงานมากเกินกว่าความจำเป็น
เพื่อให้ได้ตัวเลขที่ใกล้เครียงความจริงมากที่สุด ควรใส่ข้อมูลตามจริง และ ตั้งเป้าหมายปริมาณน้ำหนักที่ต้องการลดให้เหมาะสมกับระยะเวลาในการลด โดยแนะนำให้ลดประมาณไม่เกิน 2-3 กิโลกรรม ต่อ 30 วัน เพื่อให้การลดน้ำหนักนั้นสามารถทำได้จริง ไม่หักโหมและไม่ทำลายสุขภาพ
เครื่องคำนวน หาค่า BMR, TDEE และ ค่าพลังงานเพื่อวางแผนการลดน้ำหนัก
ใครที่ยังไม่ได้หาค่า BMI มาลองตรวจเช็คดูก่อนนะคะว่าร่างกายเราอยู่ในเกณฑ์ใดและมีความเสี่ยงต่อโรคมากแค่ไหนที่