ประสบการณ์ มหากาพย์ลดอ้วน

จดหมายจากวันนั้นถึงวันนี้

ขอขอบพระคุณรายการ Good Shape Save Cost ที่ให้โอกาสผึ้งได้แชร์ประสบการณ์แก่เพื่อนๆที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพื่อเป็นตัวอย่างและ เป็นเรงแรงบันดาลใจแก่คนที่กำลังพยายาม ค่ะ อย่างน้อย รายการนี้ก็ทำให้เราได้รู้จักกัน ขอบคุณแฟนเพจทุกๆคนด้วยนะคะ ที่ร่วมกด like และ comment ทุกๆคำติชมผึ้งยินดีน้อมรับและนำไปแก้ไขปรับปรุงเพจแห่งนี้ให้ดีขึ้นค่ะ

สวัสดีค่ะ ทีมงานGood Shape Save Cost และ คุณ John ค่ะ

ชื่อผึ้งนะคะ

ติดตาม Good Shape Save Cost มาตั้งแต่ เทปแรกค่ะ เพราะตอนนี้ผึ้งทำกลุ่มการดูแลสุขภาพและการลดน้ำหนักโดยวิธีธรรมชาติและการออกกำลังกาย เป็นกลุ่มเล็กๆที่แชร์ความรู้กัน บน Facebook ชื่อว่า LOVE FITT ค่ะ http://www.facebook.com/lovefittpage เผอิญมีสมาชิคคนนึงที่สนิทกัน เอามาให้ดูและถามว่า วิธีของ คุณจอร์น จะได้ผลไหม ตอนเริ่มแรกดูไปสองเทปก็บอกได้ทันทีค่ะว่าได้ผลแน่นอนเพราะ เป็นเบบ Hardcore และปรับสูตรให้เหมาะกับน้องเค้าไป ตาม lifestyle ที่เค้าเป็น ปรากฎ 1 เดือนได้ผลจริงๆค่ะ น้องเค้าลดได้ เกือบ 4 กก ใน1เดือน ดีใจค่ะ และเอา วีดีโอของ Good Shape Save Cost ไปแชร์ให้เพื่อนๆในกลุ่มเสมอ

เกรินนานแล้วเล่าถึงตัวเองบ้างว่าทำไมถึงได้จับพัดจับโผมาอยู่ในวงการลดน้ำหนัก ผึ้งเป็นคนสู้กับเรื่องหุ่นและน้ำหนักตัวมาตลอดทั้งชีวิต

วันวาน……

ผึ้งเป็นเด็กอ้วนมาตั้งแต่จำความได้ค่ะ อวบมาตลอด เป็นคนที่มีหุ่นแบบ แอ๊ปเปิ้ลหน่ค่ะ ช่วงบนใหญ่ขาเล็กและเตี้ย ที่สำคัญอยู่ในครอบครัวคนจีนที่นิยมให้ลูกอ้วนๆ(เพราะเป็นค่านิยมว่าถ้าเลี้ยงลูกให้อ้วนพีจะถือว่าเก่งดุแลลูกดี โหงวเฮ้งดี) จนเริ่มเข้าวัยใสก็อ้วนเกินไปกว่าที่จะกลับลำ น้ำหนักตัวพุ่งทยานไปถึง 65 กก ในขณะที่สูงแค่ 155 เซนติเมตร (ไม่ธรรมดา) ตอนนั้น แม่เริ่มห้ามให้เราทานแล้วเพราะเริ่มตระหนักแล้วว่าลูกสาวไม่ใช่เด็กอ้วนแก้มยุ้ยที่น่ารักอีกต่อไปแต่ก็เอาไม่อยู่ มีอาการดราม่าใส่กันบ่อยครั้ง เสื้อผ้าเด้กผู้หญิงสวยๆตอนนั้นใส่ไม่ได้ ต้อวซื้อเสื้อยืดคอกลม ใหญ่ใส่กับกางเกงยีนส์หลามๆ (เมื่อก่อนไม่มีเสื้อผ้าคนอ้วนเหมือนตอนนี้) จนมาถึงจุดนึงที่เราเองและแม่ที่เห็น look ของลูกสาวตอนนั้น ไม่ไหวจะเครีย อีกแล้ว ผสมรวมกับ พอเป็นสาวก็อยากสวยอยากจะเป็นที่สนใจบ้างไรบ้าง จึงตัดสินใจเริ่มลดน้ำหนักครั้งแรก

ครั้งแรก…….อาหารเสริม

ตอนนี้อายุประมาณ 16 ปี ผึ้งเริ่มจากการทานอาหารเสริมขายตรงยี่ห้อหนึ่งประเภทผงโปรตีน และชาระบาย โดยวิธีการจะให้ทานผงโปรตีนในมื้อเช้าและมื้อเย็น และจิบชาตลอดวัน(เค้าบอกเป็น ยาระบาย) แม่เองก็พยายามช่วยห้ามปลาม และจัดปริมาณอาหารให้ ผลที่ได้เป็นที่นาพึงพอใจ น้ำหนักตัว ลงจาก 65 เป็น 55 ภายในระยะเวลา 3-4 เดือนและไม่ลงอีกเลย และทุกวันนี้ก็ไม่แน่ใจว่าน้ำหนักที่ลดได้นั้นมาจากยา หรือมาจากที่แม่ช่วยคุมอาหาร แต่ถึงกระนั้นเมื่อผอมแล้วความทยานอยากก็ยังไม่สิ้นสุด ประกอบกับที่เวลานั้น ในน้ำหนัก 55 ก็ยังเป็นสาวร่างใหญ่ในหมู่เพื่อนไซส์ S ผึ้งจึงเริ่มปฏิบัติการ ลดน้ำหนักอีกครั้ง

ครั้งที่สอง…..ยุคมืด

โดยการไปหาหมอลดน้ำหนัก ทานยาลดน้ำหนักที่จัดเป็นชุดๆ นั้นเป็นจุดเริ่มต้นของอาการ ติดยาลดน้ำหนัก ผึ้งทานยาลดน้ำหนักเป็นวัฐจักร อ้วนก็ทานปรับปริมาณยาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผอมก็หยุด พออ้วนก็กลับปใช้ยา ระยะเวลาเป็นปีๆ น้ำหนัก จาก 55 ลงเหลือน้อยสุดอยู่ที่ 45 กก จนพ่อเริ่มสังเกตุและพากันคิดว่าลูกสาวกำลังติดยา(เพราะผึ้งไม่ได้บอกใครว่าทานยาลดความอ้วนค่ะ)

เหตุจากการใช้ยา หงุดหงิด ตาลอย หน้ามืด ความดันต่ำ เคยล้มในห้องน้ำ เคยมีเรื่องจากอารามณ์ที่คุมไม่อยู่ ท้องผูก โทรม เป็นริดสีดวง ฯลฯ

หลังจากหยุดใช้ยาน้ำหนักเพราะไปเรียนต่อต่างประเทศ น้ำหนักก็จะเหวี่ยงขึ้นๆลงๆอยู่ที่ 50-54 กก เป็นเวลาหลายปีเพราะเราทำกับ ข้าวเอง ไปไหนมาไหนไม่มีเท็คซี่ ไม่มีพี่วิน ต้องอาศัยเดิน และขนส่งมวลชนเป็นหลัก ทำงานร้านอาหาร และเรียนด้วยในตอนกลางวัน จนกลับมาเมืองไทย กลับมาใช้ชีวิตจริงๆ ทำงานเป็มนุษย์เงินเดินอย่างจริงจัง นั่งทำงานหน้าคอมวันนึง 7 ชม. กินดีอยู่ดี เย็นมีเลี้ยงอาหาร ทุกเดือนบริษัทจะมีปาร์ตี้ น้ำหนักจึงดีดกลับขึ้นมาเป็น 68 กก. ภายในระยะเวลา 2 ปี โดยที่เราไม่ได้สนใจ เสื้อผ้าคับก็เปลี่ยน เปลี่ยนบ่อยมาก ใครทักก็อ้วนแล้วไง ส่องกระจกดูตัวเอง ช่างเวทนานัก จนมาถึงจุดเปลี่ยนและฮึดอีกครั้ง พ่อที่ไม่เคยพูดเรื่องน้ำหนักเราเลย เอ่ยปากขึ้นมาประโยคนึง ” เจ๊ผึ้งหุ่นไม่ไหวแล้วนะปล่อยเนื้อปล่อยตัวเกินไปแล้ว” โอ้วววว มันเจ็บที่หัวใจ พระอรหัตทรงโปรด ผึ้งได้ยินอย่งนั้นจึงเห็นทางจึงแสวงหาวิธีที่จะลดน้ำหนักอีกครั้ง

ครั้งที่ 3……ตามประสาคนอ้วนส่วนใหญ่มักหาที่พึ่งที่ง่ายกว่าเสมอ!!! (สถาบันลดน้ำหนัก)

ผึ้งเลือกที่เข้าสถาบันลดน้ำหนัก หนูมารี ด้วยเหตุผลที่อยากจะรู้ว่ามัน จริงอย่างเค้าว่าไหม เพราะราคาที่แพงหูฉี่ อยากลอง ราคาครอส ครึ่งแสน ไปนวดๆตบๆเลเซอร์ น้ำหนักลงมาแค่ 1 กก ครึ่งทางของ ครอสที่จ่ายไปแล้ว แล้วอีกเท่าไหร่หล่ะ ที่เราจะสามารถสวยได้อย่างพรีเซนเตอร์

ครั้งที่ 4 ….. สู้อีกซักตั้ง (ฟิตเนสบ้าคลั่ง)

เปลี่ยนแผนอีกครั้ง ทีนี่เริ่มเข้าฟิตเนส ต่อยมวยไทย อย่างจริงจัง เลยต้องใช้เทรนเนอร์เป็นคู่ซ้อม ผึ้งโชคดีที่มีเทรนเนอร์ดี คอยดูแลเอาใจใส่ และคอยแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการออกกำกายกันเสมอ ออกกำลังกาย 4 วันต่อสัปดาห์ วันละสองชั่วโมง แต่กินเท่าเดิม น้ำหนัก ลงจาก 67 กก ลงมาเหลือ 64 กก แล้วหยุดนิ่งเป็นปี เริ่มเหนื่อยเริ่มท้อ ที่ต้องเหนื่อยขนาดนั้น กับน้ำหนักที่คงที่ เล่นหนักก็กินหนักเป็นเงาตามตัว

ครั้งที่ 5….ค้นพบทางสว่าง

เมื่อเห็นปัญหาว่าการออกกำลังกายหนักมากขนาดนั้นเป็นการทรมาณตนประหนึ่งการบำเพ็ญเพียรขอจอมยุทธ เหนื่อย เมื่อย ล้า ท้อ กับปริมาณน้ำหนักที่ลดไป จึงเริ่มศึกษาหาข้อมูลอย่างจริงจัง(อีกครั้ง)อ่านทั้งบล็อค และบทความ ทำความเข้าใจถึงกระบวนการเหตุผลที่มาต่างๆ ทำไมถึงอ้วน การเผาผลาญ จนมาเจอวีดีโอนึงเกี่ยวกับกับการควบคุมปริมาณพลังงานในอาหารที่กินในแต่ละวัน จากหลายคนทั้งพูดคุยกับคนที่ระสบความสำเร็จไปแล้ว ผึ้งจึงเริ่มปรับแผนการใช้ชีวิตใหม่อีกครั้ง ตอนต้นปี 2012 ที่ผ่านมา โดยการ ลดแป้งและน้ำตาลก่อน ผึ้งเลือกที่หลีกแป้งและน้ำตาลในมื้อเที่ยงและเย็น แต่จะทานผักและผลไม้เป็นหลัก ดื่มน้ำมากขึ้น และยังออกกำลังกายเหมือนเดิม สม่ำเสมอ 3-4 วันต่อสัปดาห์ ควบคุมปริมาณแคลโลรี่ โดยการดู Nutrition Fact และคิดถึงเรื่องแคลลอรี่ จนเป็นนิสัย ชั่งน้ำหนักทุกวัน ตั้งแต่ ต้นปีมาจนนถึงวันนี้ 7 เดือนแล้ว ผึ้งลดได้ จาก 64 กก จนปัจบันเหลือ 57 กก ค่ะ และยังคงต้องการให้ลงอีก 5 กก และน้ำน้ำก็ยังลงอยู่เรื่อยๆช้าๆ ผึ้งเลยเปิดกลุ่มแชร์ความรู้เละประสบการณ์แก่คนอื่นๆ http://www.facebook.com/lovefittpage และเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังพยายามอยู่เช่นเดียวกับเรา

บทสรุป

พอรู้มากขึ้นก็เข้าใจมากขึ้นว่า ตลอดเวลาที่เราสู้กับความอ้วนมาเป็นวิธีที่พึ่งพาคนอื่นๆและสิ่งอื่นๆทั้งสิ้น เราไม่เคยที่เปลี่ยนแปลงตัวเองเลย เมื่อเราไม่เปลี่ยนที่เราวันนึงมันก็วนกลับมาเป็นวัฐจักร และเราก็จะกลับมาอ้วนอีก

จนมาเจอเรื่องที่ Good Shape Save Cost ที่นำมาเสนอจึงกล้าบอกได้เลยว่ามันเป็นวิธีการที่เราสองคนลองและผ่านมาคล้ายกัน แต่ผลรับของคุณจอร์นอาจชัดกว่าและHardcore กว่าผึ้งมากค่ะ

สิ่งสำคัญของการลดน้ำหนักอยู่ที่การควบคุมปริมาณอาหารที่ทานเข้าไป และ ออกกำลังเพื่อให้ร่างกายและกล้ามเนื้อแช็งแรง และ เมื่อสองอย่างมารวมกันและติดเป็นนิสัย เราก็จะสามารถลดน้ำหนักได้ตามเป้า และสามารถรักษาน้ำหนักนั้นได้ อย่างยั่งยืน การลดน้ำหนัก ” ต้องคุมในครัว เป็นหลัก ไม่ใช่ในยิม” และ ผึ้งไปเจอคำพูดคำนึงของ คุณ Bob Harper เทรนเนอร์ในรายการ The Biggest loser ที่มักถามคนที่จะลดน้ำหนักกับเค้าเสมอว่า Are you ready to take change? เพราะการลดน้ำหนักไม่ใช่แค่ 1-2 เดือน แต่มันเป็นการเปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดทั้งชีวิต