ตามที่เคยลงไว้หลายๆข้อมูลเกี่ยวกับกาแฟ เรื่องของพลังงานไปแล้ว เราควรจะรู้ถึงประโยชน์และโทษของกาแฟ กันบ้าง และหาคำตอบเรื่องสรรพคุณช่วยลดน้ำหนักกัน ในปัจจุบันการดื่มกาแฟ เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายตามปั๊มน้ำมัน ตามห้างสรรพสินค้ามีการขายอย่างมากมาย จะเห็นได้ว่ากาแฟเป็นส่วนหนึ่งหรือบางคนอาจจะเป็นส่วนสอง ส่วนสามของชีวิตประจำวันไปเสียแล้ว
ส่วนประกอบที่สำคัญของกาแฟคือ Caffeine หรือมีชื่อทางเคมีว่า 1,3,7-trimethylxanthine ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของยาขยายหลอดลม theophyline caffeine สามารถพบได้ในหลายชนิดได้แก่ เมล็ดคา เมล็ดกาแฟ ใบ ชา โคลา caffeine ถูกผสมลงในน้ำอัดลม ยาแก้หวัดบางชนิด ยาแก้ปวด ยาลดน้ำหนัก
กาแฟจะถูกดูดซึมอย่างรวดเร็วหลังจากที่เราดื่มแกแฟและจะถูกขับออกไปครึ่งหนึ่งในเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง กาแฟจะไม่สะสมในร่างกายโดยจะถูกทำลายและขับออกหมด กาแฟ จะกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางทำให้ไม่ง่วง มีสมาธิในการทำงานดีขึ้น และยังทำให้ความสามารถในการทำงานดีขึ้น ลดอาการปวดเมื่อยเนื่องจากไข้หวัดและช่วยลดอุบัติเหตุขณะขับรถ กระตุ้นอวัยวะของร่างกายและเพิ่มการเผาผลาญไขมันและช่วยน้ำหนักได้ด้วย กาแฟจะมีฤทธิ์ขับปัสสาวะอ่อนๆ ดังนั้นขณะออกกำลังกายหรือหลังออกกำัลังกายไม่ควรรับเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกาแฟเพราะจะทำให้ร่างกายขาดน้ำได้
ผลเสียของกาแฟต่อสุขภาพ
การดื่มกาแฟ 2-4 แก้ว อาจจะไม่เป็นผลเสียต่อสุขภาพ แต่หากดื่มมากไปอาจจะมีผลเสียต่อสุขภาพโดยรวมได้ หากดื่มกาแฟมากเกินไป 4-7 แก้วอาจจะเกิดผลเสีย โดยมีอาการ ดังนี้ นอนไม่หลับ, หงุดหงิดง่าย, สับสน, อารมณ์แปรปรวน, คลื่นไส้อาเจียน, ใจสั่นหรือหัวใจเต้นเร็ว, กล้ามเนื้อกระตุก, ปวดศรีษะ, วิตกกังวล
ผู้ที่รับประทานยา Ciprofloxacin (Cipro) หรือ norfloxacin อาจจะทำให้ระดับกาแฟในเลือดสูงขึ้นทำให้เกิดอาการข้างเคียง ผู้ที่่ทานยาขยายหลอดลม เช่น Theophylline จะออกฤทธิ์เหมือนกาแฟอาจจะทำให้เกิดอาการใจสั่น ผู้ที่รับประทานสมุนไพร Ephedra (mahuang) ซึ่งอาจจะทำให้เกิดหัวใจเต้นผิดปกติหรือชัก หากรับประทานร่วมกับกาแฟจะเพิ่มความเสี่ยงดังกล่าว
กาแฟกับโรคกระดูกพรุน มีรายงานทั้งสนับสนุนว่าการดื่มกาแฟทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน บางรายงานก็กล่าวว่าไม่เกิดโรค ผู้เกิดโรคกระดูกพรุนมักจะได้รับแคลเซียมไม่พอแนะนำว่าควรจะดื่มนมเพิ่ม สำหรับผู้ที่ดื่มกาแฟวันละ 2 แก้วขึ้นไป
กาแฟ กับความดันโลหิตสูง การดื่มกาแฟ 2-3 แก้ว จะทำให้ความดันโลหิตเพิ่มได้ 3-14/4-13 แต่ยังไม่ทราบกลไกที่ทำให้เกิดความดันโลหิตสูงขึ้น สำหรับผู้ที่ดื่มเป็นประจำความดันโลหิตอาจจะไม่สูง สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูงควรจะลดปริมาณกาแฟลงไม่เกิน 2 แก้วต่อวัน และควรจะงดดื่มในกรณ๊ที่มีความดันสููง เช่น การออกกำลังกาย การทำงานหนัก ท่านอาจจะทดสอบว่ากาแฟมีผลต่อความดันหรือไม่โดยวัดความดันโลหิต 30 นาที หลังจากดื่มกาแฟ หากสูงขึ้นควรจะลดหรือเลิก
กาแฟกับโรคเบาหวาน จากการศึกษาพบว่าการดื่มกาแฟจะทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินเพิ่มขึ้น ร้อยละ 15 กรดไขมันในเลือดเพิ่มขึ้นฮอร์โมน epinephrine เพิ่มสูงขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลเสียต่อผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน
ผลดีของกาแฟต่อสุขภาพ
มีรายงานว่าการดื่มกาแฟวันละ 3 แก้ว จะลดอาการหอบหืด หากดื่มมากกว่า 6 แก้ว การทดสอบสมรรถภาพปอดจะดีขึ้น กาแฟก็เหมือนกับพืชอื่นๆ มีสาร flavanoid ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ การดื่มกาแฟจะลดอาการง่วงนอน และทำให้มีสมาธิในการทำงานดีขึ้นโดยเฉพาะผู้ที่ทำงานเป็นกะและลดอุบัติเหตุขณะขับขี่ กาแฟช่วยลดอาการซึมเศร้าและคลายความวิตกกังวล การดื่มกาแฟเป็นประจำจะลดการเกิดนิ่วในทางเดินปัสสาวะและยังลดการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี มีหลักฐานพอจะเชื่อว่าการดื่มกาแฟจะป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่เมื่อดื่มวันละไม่เกิน 4 แก้ว
กาแฟกับการลดน้ำหนัก
เป็นที่ทราบกับดีแล้วว่า สารคาเฟอีนมีฤทธิ์เพิ่มความกระชุ่มกระชวยให้สมอง และช่วยขจัดความอ่อนล้า โดยได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่า มีคุณสมบัติเป็น “เทอร์โมเจนีซีส” (Thermogenesis) ซึ่งคือสารเร่งการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย มีผลทำให้ไขมันที่สะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกายถูกสลายเป็นพลังงานความร้อน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มนำผลการศึกษาดังกล่าวมาโฆษณาว่า การดื่มกาแฟสามารถช่วยลดความอ้วนได้ นอกจากนี้ สารคาเฟอีนยังมีฤทธิ์เป็นสารขับปัสสาวะ จึงทำให้น้ำหนักตัวลดลงชั่วคราว
ผู้ที่ต้องการลดความอ้วนโดยการดื่มกาแฟ คงต้องผิดหวังเมื่อได้อ่าน เพราะการจะได้ผล ต้องดื่มกาแฟถึงวันละอย่างน้อย 6 แก้วขึ้นไป แต่ตามปกติแล้ว การดื่มกาแฟที่ไม่ทำให้เกิดโทษจะต้องไม่เกิน 2-3 แก้วต่อวัน นอกจากนี้ ร่างกายบางคนอาจไม่สามารถทนได้กับสารคาเฟอีนจำนวนมาก ผลของคาเฟอีนอาจก่อให้เกิดอันตรายตามมาได้
การดื่มกาแฟ จะเพิ่มความสามารถในการออกกำลังกายหรือไม่ จากการศึกษาพบว่าการดื่มกาแฟจะทำให้สามารถออกกำลังกายได้นานขึ้น แต่การศึกษาดังกล่าวเป็นศึกษาในผู้ชายซึ่งมีคำแนะนำว่าอาจจะดื่มกาแฟสักแก้วประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนออกกำลังกาย หากดื่มมากกาแฟจะออกฤทธิ์เสมือนยาขับปัสสาวะทำให้ร่างกายขาดน้ำ ปริมาณกาแฟที่ขับออกมาทางปัสสาวะหากมากกว่า 12 micrograms/ml จะถูกห้าม (เท่ากับการดื่มกาแฟ 4 แก้ว)
นอกจากนี้ อาจารย์ สง่า ดามาพงษ์ นักวิชาการระดับ 9 กรมอนามัย กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ที่กาแฟจะทำให้ลดน้ำหนักได้ เพราะไม่มีข้อมูลวิทยาศาสตร์ยืนยันเช่นนั้น ทั้งนี้ ถ้าหากกินกาแฟสูตรใดสูตรหนึ่งแล้วสามารถลดน้ำหนักได้จริงคคงเป็นการเติมสารอะไรบางอย่างทำให้มีผลต่อร่างกาย ซึ่งอาจเป็นยาลดน้ำหนัก ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายมาก
“ทุกวันนี้ยังไม่มีอาหารเสริมใด รวมถึงกาแฟที่เป็นการลดน้ำหนักได้อย่างถาวรและยั่งยืน เท่ากับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย ทั้งนี้ อาหารเสริมจะทำให้ลดน้ำหนักได้เฉพาะช่วงที่ทานหรือดื่มอาหารเสริมเหล่านั้นอยู่ แต่หลังจากเลิกแล้วก็จะเกิดโยโย่เอฟเฟกต์ ทำให้น้ำหนักกลับมาอ้วนเหมือนเดิม ทั้งนี้ ความเชื่อกันว่า ดื่มกาแฟกับแซนด์วิชแล้วจะทำให้น้ำหนักลดลงนั้น น้ำหนักลดลงแน่แต่ลดจากการอดอาหารอื่นๆ ทานแต่กาแฟมันก็ย่อมลด แต่ไมได้ลดจากกาแฟโดยตรง จึงขอให้ประชาชนอย่าหลงกับการโหมโฆษณาที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการทานกาแฟ” นอกจากนี้ อาจมีผลเสียกับร่างกายได้ หากดื่มกาแฟมากกว่าวัน 2 แก้วต่อวัน เพราะหากร่างกายได้รับปริมาณกาเฟอีนเกินไปก็อาจเป็นอันตรายได้ และหากมีการเติมสารหรือตัวยาสำหรับการลดน้ำหนัก ก็อาจเป็นอันตรายกับร่างกายในระยะยาวด้วยเช่นกัน
References
- Manager.com
- snc.lib.su.ac.th
- dek-d.com