ความเชื่อที่ 1
“ตราบใดที่คุณทานอาหารสุขภาพ ก็ไม่จำเป็นต้องสนใจปริมาณพลังงานในอาหาร”
ความจริงคือ:
ไม่จริงเสมอไป เพราะโฮลวีตพาสต้า, ขนมปัง, พายต่างๆ ก็มีพลังงานเช่นเดียวกับ ข้าวแป้งทั้งขัดสี และไม่ขัดสี อโวคาโด ถั่วต่างๆและน้ำมันมะกอก ซึ่งขึ้นชื่อว่าดีต่อสุขภาพหัวใจ หรือแม้กระทั้งไวน์แดงและ ดาร์ค ช็อกโกแลตที่เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ล้วนเป็นอาหารเพื่อสุขภาพทั้งสิ้น แต่ก็เต็มไปด้วยพลังงานที่สูงไม่น้อยเลยทีเดียว และถ้าหากคุณทานมันมากจนเกินไป โดยไร้การควบคุม มันก็อาจทำให้คุณเพิ่มน้ำหนักได้เช่นกัน ดังนั้นจึงอยากแนะนำให้พยายามคิดและสนใจเรื่องการนับปริมาณแคลอรี่บ้างเพราะนั้นจะเป็นการช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้น และไม่เลือกกินอาหารแบบผิดๆอีก
ความเชื่อที่ 2
“คุณสามรถลดน้ำหนักได้ 4.5 กก ภายใน 2 สัปดาห์”
ความจริงคือ:
คุณอาจจะสามารถลดน้ำหนักได้ 4.5 กก ภายใน 2 สัปดาห์ ถ้าหากคุณควบคุมอาหารอย่างเข้มข้น แต่ผลที่่ตามมาก็คือ น้ำหนักตัวทั้งหมดจะเริ่มดีดกลับทันทีเมื่อคุณกลับมาทานปริมาณปรกติ ความจริงของหลักการที่คุณจะลดน้ำหนักได้ 0.5 กก นั้น คุณจะต้องตัดพลังงานออกจากไขมันที่คุณเก็บไว้ประมาณ 3,500 kcal โดยการทานให้น้อยลง และ ออกกำลังกายมากขึ้น คิดง่ายๆถ้าหากคุณตัดพลังงานออก 500 kcal ต่อวัน (อาจแบ่งเป็น 300 จากอาหาร และ 200 จากการออกกำลังกาย) คุณก็จะสามารถลดน้ำหนักได้ 0.5 กก ต่อสัปดาห์เลยทีเดียว และนั้นคือน้ำหนักที่ลดได้จริงๆและยั่งยืนกว่า
ความเชื่อที่ 3
“ตราบใดที่ยังออกกำลังกาย คุณก็สามารถทานอาหารได้เท่าที่คุณต้องการ”
ความจริงคือ:
ข้อนี้ต้องระวังมากค่ะ เพราะในการทานคุกกี้ขนาดกลาง 2 ชิ้น คุณอาจได้รับพลังงานถึง 400 kcal ในขณะที่ การเผาผลาญพลังงาน 400 kcal ออกไปสำหรับคนทั่วไปแล้วอาจจะต้องวิ่งไกลถึง 6.4 กม.เลยทีเดียว เพื่อเป็นหลักการคร่าวๆ ทุกครั้งที่จะหยิบอะไรใส่ปาก ให้คิดถึงช่วงเวลาการวิ่งที่ต้องใช้เสมอ (ยกเว้นถ้าคุณเป็นนักกีฬาที่ซ้อมเป็นประจำ) ดังนั้นการที่จะลดน้ำหนักได้นั้นคุณจะต้องคำนึงปริมาณพลังงานที่คุณทานเข้าไป โดยไม่ให้เกินกับปริมาณที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้เสมอ
ความเชื่อที่ 4
“ทานอาหารมื้้อเล็กๆหลายๆมื้อ ดีกว่าการทานให้น้อยลงจากมื้อหลักๆ”
ความจริงคือ:
เราควรแบ่งมื้ออหารออกเป็นมื้อเล็กๆย่อยๆ เพราะ ตามที่ บก. เว็ปไซด์ eatingwell Joyce Hendley ได้เคยนำเสนอไปว่าโดยปรกติแล้วระบบการเผาผลาญของเราจะเพิ่มสูงขึ้นทุกครั้งเมื่อเรารับประทานอาหาร ซึ่งเป็นไปตามความต้องการของระบบต่างๆของร่างกาย ดังนั้นการแบ่งมื้ออาหารออกเป็นมื้อเล็กๆย่อยๆ ก็สามารถทำให้ระบบการเผาผลาญทำงานได้อย่างเต็มทีและต่อเนื่องและยังอาจช่วยเผาผลาญพลังงานได้เพิ่มขึ้นได้อีกด้วย แต่การทานมากมื้อเล็กๆที่ว่าไม่ใช่การทานของจุบจิบ แต่จะต้องเป็นการทานอาหารเป็นมื้อที่มีสารอาหารครบถ้วน โดยลดปริมาณของอาหารในจานให้น้อยลงและเพิ่มปริมาณจำนวนของมื้ออาหารให้มากขึ้นซึ่งอาจจะเป็น 4-6มื้อก็ได้
ความเชื่อที่ 5
“อาหารที่ดีกับการลดน้ำหนักคือสลัด”
ความจริงก็คือ:
ผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนักกล่าวว่าจริงอยูที่สลัดเป็นอาหารที่ดีกับการลดน้ำหนักและเป็นอาหารที่ทำให้เรารับประทานผักมากขึ้น แต่ถ้าผักไม่ใช่ของโปรดของคุณหล่ะ จากตัวอย่างที่หลายๆคนมักเพิ่ม Topping อย่าง ถั่วพีแคน ซีส ไข่นกกระทา ขนมปังอบกรอบ แอ๊ปเปิ้ล ฟูจิ ลงไปในสลัด เพื่อเพิ่มความอร่อย หรือทำให้ทานผักได้ง่ายขึ้นนั้น เป็นการกระทำที่ทำให้สลัดกลายเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยพลังงานและไขมันจำนวนมากไม่ต่างอะไรกับการทาน ชีสเบอร์เกอร์ 1 ชิ้นเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าต้องการที่จะประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักด้วยสลัดจงเปลี่ยนสลัดจานนั้นของคุณให้มีพระเอกเป็นผักจริงๆกันเถอะ
มาดูพลังงานใน ยำและสลัดกัน
Credit: eatingwell.com