ช่วงพักระหว่างเซท จะเป็นช่วงที่ได้นั่งแอบมองคนอื่นรอบๆ ตัวเล่นเวทกัน ซึ่งในฟิตเนสก็จะมีทั้งคนที่เล่นเก่งจนชำนาญ และคนที่เพิ่งหัดเล่น สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์ มักมีปัญหากับการเลือกน้ำหนักที่จะยก เก้ๆกังๆ ว่าจะใช้อุปกรณ์อะไร แถมไม่รู้ว่าจะเล่นท่าไหน ปริมาณเท่าไหร่ดี
ทางออกก็คือไม่ต้องเขิลอายที่จะถาม ถามเทรนเนอร์ที่เดินไปเดินมานั่นหล่ะ ว่าใช้อุปกรณ์อย่างไร ใช้น้ำหนักเท่าไหร่ เพราะความจริงแล้วหน้าที่ของเทรนเนอร์อย่างนึงคือ คอยให้คำแนะนำเรื่องการออกกำลังกาย และการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ในยิมอยู่แล้ว ถ้าไม่มีเทรนเนอร์ เดินเข้าไปถามคนที่เค้าเล่นชำนาญแล้วก็ได้ เชื่อว่าทุกคนยินดีตอบและแนะนำ แถมเป็นวิธีสร้างความสัมพันธ์ที่ดีด้วย (เล็งๆ ช่วงที่เค้าพัก ระหว่างเซทก็ได้)
![](https://www.lovefitt.com/system/wp-content/uploads/2016/10/diary-0005-img-1.jpg)
อีกอย่าง การเล่นเวทเทรนนิ่ง ไม่จำเป็นต้องยกให้ได้น้ำหนักมากๆ แต่ควรจะยกให้ถูกท่า ให้โดนมัดกล้ามเนื้อมากกว่า แล้วค่อยๆเพิ่มน้ำหนักขึ้นตามความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้น เพราะเห็นหลายคนมีอาการหงอเวลาเห็นคนอื่นที่ยกน้ำหนักเยอะมาเล่นใกล้ๆ บอกเลยว่าไม่ต้องอายเพราะคนเหล่านั้นก็เคยยืนอยู่ในจุดที่คุณยืนอยู่เช่นกัน
จง Train your muscle not your ego
เลือกน้ำหนักตามกำลังที่เรายกได้จนจบ 10-12 ครั้ง หมั่นส่องกระจกเช็กท่าทางของเราว่าอยู่ใน post ที่ถูกต้องหรือเปล่า (นี่คือเหตุผลว่าทำไมยิมถึงต้องมีกระจก) และโฟกัสในกล้ามเนื้อที่เราจะเล่น และถ้าใส่น้ำหนักมากไป ยกแล้วรู้สึกว่าท่ามันไม่สมบูรณ์ ก็ไม่ต้องอายที่จะลดน้ำหนักลง เพราะยกผิดท่าน่าอายและอันตรายกว่า ฝากคำคมสั้นๆ เกี่ยวกับการเล่นเวทไว้ ยกมาจากคำพูดของยอดฝีมือท่านนึงว่า จง “Train your muscle not your ego”