Go to content

เเกงเลียง อาหารสมุนไพร อุดมประโยชน์

แกงเลียงเป็นอาหารที่มีมาแต่โบราณ ลักษณะของน้ำแกงจะไม่ข้นหรือไม่ใสจนเกินไป มีรสเค็ม พอดี รสเผ็ดร้อนได้จากพริกไทย และมีผักเป็นส่วนผสมหลัก

เเกงเลียงลดอ้วน

แกงเลียงเป็นอาหารที่มีมาแต่โบราณ  ลักษณะของน้ำแกงจะไม่ข้นหรือไม่ใสจนเกินไป  มีรสเค็ม พอดี  รสเผ็ดร้อนได้จากพริกไทย  และมีผักเป็นส่วนผสมหลัก

ผักในแกง เลียงจะไม่เปื่อยมาก และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ ใบแมงลัก ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของแกงเลียง  ผักที่ใช้คือ  บวบ  น้ำเต้า  ข้าวโพดอ่อน ตำลึง ฟักทอง เห็ดนางฟ้า เห็ดฟาง  ในสมัยก่อนแกงเลียงจะมีเนื้อสัตว์เฉพาะที่โขลกลงในน้ำแกงเท่านั้น  ซึ่งเนื้อสัตว์จะทำให้น้ำแกงข้นขึ้น  อาจจะใช้ได้ทั้งเนื้อปลาช่อน  เนื้อกุ้งแห้ง หรือปลากรอบก็ได้  แต่ในปัจจุบันแกงเลียงไม่ได้ใส่เฉพาะเนื้อสัตว์โขลกป่นเท่านั้น แต่จะใส่เนื้อเป็นชิ้นๆลงไปด้วย เช่น กุ้งสด  เนื้อไก่ฉีก เป็นต้น เครื่องแกงของแกงเลียงจะประกอบด้วย พริกไทย หอมแดง กะปิ กุ้งแห้ง หรือเนื้อปลาช่อน  บางสูตรอาจมีการเพิ่มพริกชี้ฟ้าเหลืองโขลกละเอียดลงไปเพิ่มความเผ็ดด้วย แต่จะให้หอมและได้รสชาติเผ็ดร้อนเท่ากับพริกไทยคงไม่ได้

ส่วนประกอบ(สำหรับกิน 3 คน)

  • เห็ดรวมหลายๆชนิดตามชอบ
  • บวบเหลี่ยม   3  ถ้วยตวง
  • ข้าวโพดอ่อน   2   ถ้วยตวง
  • เห็ดฟาง    2   ถ้วยตวง
  • ฟักทอง   2   ถ้วยตวง
  • ใบตำลึง   2   ถ้วยตวง
  • ใบแมงลัก   1   ถ้วยตวง
  • น้ำปลา   2  ช้อนโต๊ะ
  • น้ำซุป   4   ถ้วย

ส่วนผสมน้ำพริก

  • กุ้งแห้งโขลกละเอียด    1/4   ถ้วยตวง
  • พริกไทยเม็ด 1  ช้อนชา
  • หอมแดง 1/2 ถ้วยตวง
  • กะปิ 1/2  ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  • โขลกส่วนผสมน้ำพริกเข้าด้วยกันให้ละเอียด
  • นำน้ำซุปตั้งไฟให้เดือด  ละลายพริกแกงกับน้ำซุป ตั้งจนเดือดใส่ฟักทอง ข้าวโพดอ่อน บวบ เห็ดฟาง ตั้งต่อจนผักสุก
  • ใส่ใบตำลึง ใบแมงลัก และกุ้ง ปรุงรสด้วยน้ำปลา  ปิดไฟ

เคล็ดลับ

  • น้ำแกงต้องไม่ข้นเป็นโคลน หอมกลิ่นพริกไทยและกะปิ
  • ผักต้องสุกนุ่มแต่ไม่เปื่อย
  • ใส่กระชายโขลกในน้ำพริกเล็กน้อยจะช่วยให้น้ำแกงมีกลิ่นหอมขึ้น
  • ควรกินร้อนๆ

แกงเลียง 1 ถ้วยให้พลังงาน 219 kcal

 

Credit:  หมอชาวบ้าน

Latest