หน้าฝนมาแล้ว ฝนตกเฉอะแฉะ เป็นช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลง สภาพอากาศอับชื้นแบบนี้ เหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อโรคเป็นยิ่งนัก ใครหลายคนก็คงจะป่วยไม่สบายไปแล้วบ้าง หรือผู้ที่ยังรอดอยู่ก็อย่าได้วางใจ ต้องหันมาเตรียมตัว เตรียมความฟิตให้กับร่างกายรับหน้าฝนกัน
เมื่อถึงช่วงหน้าฝน ฝนตกลงมาทำให้แผนการต่างๆก็ต้องปรับเปลี่ยนไป เคยออกกำลังกายช่วงเวลาเดิมๆก็อาจจะไม่สะดวกนัก จะไดเอทโหดๆก็พาลจะป่วยไม่สบายได้ ซึ่งแน่นอนช่วงนี้เชื้อโรคเยอะต้องสร้างร่างกายให้แข็งแรง พยายามลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการป่วย
ร่างกายอุ่นๆไว้จะดีกว่า
ช่วงหน้าฝนแบบนี้พยายามรักษาอุณภูมิของร่างกายให้อบอุ่นเข้าไว้ หากตัวเปียกปอน ตากฝนมาให้รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ พยายามให้ตัวแห้ง สวมเสื้อผ้าแห้งๆ ใครอยู่ในห้องแอร์ก็สวมเสื้อผ้าหนาๆเข้าไว้
นอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่
พยายามนอนหลับให้ได้อย่างน้อย 6-8 ชม.ต่อวัน การนอนหลับที่มีคุณภาพจะช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ช่วยฟื้นฟูระบบต่างๆของร่างกายให้กลับมาฟิตปั๋ง รวมทั้งระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายด้วย
ล้างมือ ทานร้อน ช้อนกลาง และสวมหน้ากากอนามัย
สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือ การป้องกันและการไม่แพร่กระจายเชื้อโรค การรับประทานอาหารควรเลือกอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วย โดยเฉพาะถ้ารู้สึกร่างกายไม่แข็งแรง ทุกครั้งที่รับประทานอาหารควรล้างมือ และใช้ช้อนกลาง และเมื่อมีอาการป่วยต้องใส่หน้ากากป้องกันเพื่อไม่ให้เชื้อแพร่ไปติดผู้อื่น
ออกกำลังกายเป็นประจำ
การออกกำลังกายเป็นยาวิเศษรักษาได้ทุกโรค แต่ฝนตกแบบนี้จะไปออกกำลังกายได้อย่างไร หลายคนเอาฝนมาเป็นข้ออ้าง
มาปัดตัวขี้เกียจที่เกาะกินใจออกไป โดยสร้างทัศนคติให้รักการออกกำลังกาย ไม่หวั่นแม้วันฝนพรำกัน
ซึ่งถ้าคุณเป็นมนุษย์ฟิตเนสก็ไม่ต้องกังวล เพราะฟิตเนสเป็นการออกกำลังกายในที่ร่มอยู่แล้ว หรือถ้าติดฝน การเดินทางออกจากบ้านไปฟิตเนสหรือไปวิ่งทำได้ยากเย็น ให้ลองหากิจกรรมการออกกำลังกายที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน เช่น กระโดดเชือก วิ่งอยู่กับที่ เต้นตามวิดีโอออกกำลังแบบต่างๆ พร้อมบอร์ดี้เวทแบบไม่ง้ออุปกรณ์ ก็สามารถชดเชยวันที่ติดฝนได้
ถ้าใครชอบเล่นกีฬาเดี๋ยวนี้สนามกีฬาหลายที่ก็เป็นแบบในร่ม(indoor)แทบทั้งนั้น จะรวมตัวกันไปเตะฟุตบอล ตีแบต เล่นบาส ปีนผาจำลอง ต่อยมวยไทย หรือ ไปเล่น cross fit ก็สนุกได้เหงื่อไปอีกแบบ
หรือกลุ่มสาวๆที่ชอบกิจกรรมออกกำลังกายแบบผ่อนคลาย ลองหาเวลาไปยืดเหยียดกล้ามเนื้อ กับครอสโยคะ พิลาทิส หรือจะเต้นสะบัดไต่เสาแบบโพลแดนซ์ ปีนผ้า ฯลฯ ก็ได้ทั้งความผ่อนคลาย ฝึกสมาธิพร้อมได้ความแข็งแรงไปพร้อมๆกัน
สำหรับใครที่ไม่เกรงกลัวฝน เป็นขาลุย ทั้งวิ่งทั้งปั่น ก็ควรระวังเรื่องพื้นถนนที่เปียก และการออกกำลังกายในที่แจ้งไว้ด้วย เพราะพื้นหรือถนนเปียกนอกจากลื่นแล้วอาจะเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดีช่วงฝนฟ้าคะนองได้ และ ระวังถนนลื่น หรือน้ำเจิ่งนองบดบังหลุมบนถนน ที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
อาหารเพื่อความฟิตรับหน้าฝน
นอกจากป้องกันโรคและเตรียมร่างกายให้ฟิตแล้วก็ควรเลือกทานอาหารที่เหมาะกับฤดูนี้กันด้วย สิ่งสำคัญคือการเลือกทานอาหารให้หลากหลายครบหมวดหมู่ และทานอาหารที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ซึ่งอาหารที่เหมาะมากสำหรับหน้าฝนแบบนี้ได้แก่
อาหารที่มีวิตามินซีสูง
เพราะวิตามินซี จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและช่วยต้านโรคหวัดได้โดยตรง ซึ่งอาหารที่มีวิตามินซีสูงได้แก่ ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว ส้ม มะนาว กีวี พริกหยวก และ ฝรั่ง
อาหารที่มีวิตามินอี
วิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยอาหารที่มีวิตามินอีได้แก่ ผักใบเขียว มะเขือเทศ ไข่ ถั่ว นม น้ำมันพืช และ เนื้อปลา
อาหารที่มีเบต้าแคโรทีนสูง
มีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยจะพบมากในผักที่มีสีเขียว เหลือง ส้ม และแดง เช่น แครอท มะเขือเทศ มะละกอ ฟักทอง บล็อกโคลี่และผักบุ้ง
อาหารที่มีวิตามินบี
ช่วยบำรุงสมอง เสริมสร้าความต้านทานต่อโรค และช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน อาหารที่มีวิตามินบีสูงได้แก่ นม เนื้อสัตว์ ไข่ ผักจำพวกถั่ว ข้าว ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ธัญพืชต่างๆ และผักใบเขียว
อาหารที่มีสังกะสี และ ซิลีเนียม
จะพบมากในอาหารทะเล นม ไข่ไก่ ตับ ถั่วลิสง และ ข้าวกล้อง ซึ่งแร่ธาตุสองตัวนี้จะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้
อาหารที่มีอัลลิซิน และซัลไฟด์
ซึ่งจะมีอยู่ในกระเทียมทุกรูปแบบ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน และยังช่วยฆ่าเชื้อโรค
กรดไขมันโอเมก้า 3
เป็นกรดไขมันที่มีความสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดขาว และ แอนตี้บอดี้ของร่างกาย โอเมก้า 3 พบมากในอาการจำพวก ปลาทะเล น้ำมันตับปลา ถั่วเหลือง และไข่ไก่
อาหารที่มีโปรไบโอติกส์
อย่างโยเกิร์ตและนมเปรี้ยว โปรไบโอติกส์จะทำหน้าที่กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ป้องกันร่างกายจากเชื้อไวรัสต่างๆ และช่วยให้การทำทำงานของภูมิต้านทานของร่างกายดีขึ้นอีกด้วย
ได้เคล็ดลับดีๆเตรียมความพร้อมรับฝนกันแล้ว ก็นำไปปรับใช้เพื่อดูแลสุขภาพตนเองและคนที่รักกัน และถ้าหากเกิดอาการป่วยขึ้นมาก็พยายามพักผ่อนมากๆ พยายามทานอาหารที่มีประโยชน์ หากเป็นหนักมากๆก็ไปหาหมอทานยา และกลับมาดูแลตัวเองสู้กับฝนกันต่อไป
References
เรียบเรียง : lovefitt.com
- thaihealth.or.th
- manager.co.th
- doctor.or.th