นมหาย !!!! นมหมดตู้ นมขาดตลาด หลายคนคงรู้สึกว่าในช่วง 1-2 เดือนนี้ ทำไมถึงหาซื้อนมได้ยากขึ้น นมไม่เต็ม ไม่แน่นตู้ เหมือนก่อน ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ “นม” หายจากเชลฟ์นั้น มาจากปัจจัยหลักๆ 2 ข้อคือ ช่วงนี้ถือเป็นช่วง Dry Cow หรือ ช่วงพักเต้าของเหล่าแม่วัว ประกอบกับแม่วัวจำนวนหนึ่งตายไปจากการระบาดของโรคอุบัติใหม่ Lumpy Skin ที่เกิดขึ้นเมื่อต้นปี รวมๆ กับต้นทุนในการเลี้ยงวัวนมเพิ่มสูงขึ้น เกษตรกรหลายคนตัดสินใจเลิกเลี้ยงวัวนม หันไปทำอาชีพอื่นเพราะสู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว ส่งผลให้จำนวนแม่วัวที่จะผลิตน้ำนมดิบเข้าสู่กระบวนการผลิตนมจึงน้อยลง
![dry cow หรือ โคดรายคืออะไร?](https://www.lovefitt.com/system/wp-content/uploads/2022/10/lovefitt-meiji-dry-cow-img01.jpg)
ด้วยเหตุการณ์เหล่านี่นี้เอง ที่ทำให้ปริมาณน้ำนมดิบลดลง กระทบกระเทือนตรงถึงการผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ เนื่องจาก “นมพาสเจอร์ไรส์ ” หรือนมบรรจุขวดที่เราคุ้นตา บนเชลฟ์ตู้แช่ของซูเปอร์มาร์เก็ต เป็นนมที่ใช้น้ำนมวัวแท้ 100% ในการผลิต อีกทั้งอายุการเก็บรักษาสั้น ทำให้การเตรียม Supply น้ำนมดิบ ทำได้ยาก ต่างจากการผลิตนม UHT หรือนมกล่องกระดาษ แบบไม่ต้องแช่เย็น ที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่า เพราะในการผลิตนม UHT จะใช้น้ำนมดิบ และนมผงประกอบกัน การ Supply วัตถุดิบจึงทำได้ง่ายกว่า สามารถผลิตได้มาก และเก็บไว้ได้นานโดยไม่ต้องแช่เย็น นม UHT จึงยังสามารถหาซื้อได้ตามปกติ
![นมวัวในประเทศไทยได้มาจากวัวสายพันธุ์โฮลส์ไตน์ฟรีเชี่ยน](https://www.lovefitt.com/system/wp-content/uploads/2022/10/lovefitt-meiji-dry-cow-img02.jpg)
นมวัวแท้ 100% ในบ้านเรามาจากไหน
นมวัวที่เราบริโภคกันในประเทศไทย ส่วนมากจะเป็นน้ำนมวัว ที่ได้มาจากวัวสายพันธุ์โฮลส์ไตน์ฟรีเชี่ยน (Holstein Friesian) ซึ่งมีถิ่นกำเนิดมาจากยุโรป เจ้าวัวตัวสีขาว-ดำ ที่เราทุกคนคุ้นเคยกันดีตามฟาร์มโคนมนมนั้นเอง
ซึ่งวัวสายพันธุ์นี้ ทางกรมปศุสัตว์เค้าได้คัดเลือกให้เป็นสายพันธุ์หลัก ในการปรับปรุงพันธุ์โคนม เพื่อผลิตน้ำนมดิบไว้บริโภค ทำให้เราสามารถผลิต นม และผลิตภัณฑ์ที่มาจากนมได้เอง เพียงพอต่อความต้องการบริโภคในประเทศ
แต่ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา หลายๆ คนคงรู้สึกได้ว่า นมวัวหาซื้อได้ยากขึ้น นมขาดตลาด ไม่เพียงพอต่อการบริโภค ซึ่งสถานการณ์ที่นมขาดตลาดนั้น เกิดจากปัจจัย 2 อย่างหลักๆ คือ
![dry cow (โคดราย) คือช่วงพักเต้าของวัวนม](https://www.lovefitt.com/system/wp-content/uploads/2022/10/lovefitt-meiji-dry-cow-img03.jpg)
Dry Cow (โคดราย) ช่วงพักเต้าของเหล่าแม่วัว
ตามธรรมชาติของวัวสายพันธุ์โฮลส์ไตน์ฟรีเชี่ยน มักจะผสมพันธุ์ติดได้ค่อนข้างดีในช่วงที่อากาศหนาว ซึ่งตรงกับช่วงปลายปี และต้นปีของประเทศไทย หรือเดือนธันวาคม-มกราคม โดยแม่วัวจะอุ้มท้องนานประมาณ 280 วัน หรือ 9 เดือน
หลังจากที่แม่วัวคลอดลูก เกษตรกรก็จะเริ่มทำการรีดน้ำนมดิบ เพื่อขายต่อให้ผู้ผลิตนมวัว และสินค้าที่มีส่วนประกอบของนมวัว ระยะเวลาที่สามารถรีดน้ำนมจากแม่วัวได้นั้น จะเริ่มตั้งแต่ที่แม่วัวคลอดลูก ยาวไปจนถึงแม่วัวผสมพันธุ์รอบใหม่ (หลังจากที่คลอดประมาณ 90 วัน ) ซึ่งแม่วัวจะผลิตน้ำนมได้เยอะที่สุดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน แล้วจะค่อยๆ ผลิตน้อยลงเรื่อยๆ และจะมีการหยุดรีดนม เพื่อพักเต้านมของแม่วัวในช่วงท้องแก่ หรือช่วงที่อุ้มท้อง 2 เดือนสุดท้าย เพื่อรักษาสุขภาพของแม่วัว ซึ่งจะตรงกับช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน ของทุกปี จึงเป็นสาเหตุให้ในช่วงนี้ของทุกปี เรามักเจอกับสถานการณ์นมขาดตลาด เนื่องจากเป็นธรรมชาติของแม่วัวที่ต้องมีการพักการรีดนมในช่วงเวลาพร้อมๆ กัน
แต่ว่าในปีนี้ ทำไม นมจึงขาดตลาดมากกว่าปีที่ก่อนๆ จนเริ่มเห็นว่า นมสดแบบรรจุขวด (นมพาสเจอร์ไรส์) ไม่เต็มตู้เหมือนก่อน ก็เพราะในปีนี้ มีเหตุปัจจัยที่ 2 มาซ้ำเติม สถานการณ์ Dry Cow นั่นเอง
![โรค Lumpy Skin คือปัญหาใหญ่ของต้นทุนในการเลี้ยงวัว จึงทำให้นมวัวขาดตลาด](https://www.lovefitt.com/system/wp-content/uploads/2022/10/lovefitt-meiji-dry-cow-img04.jpg)
โรค Lumpy Skin และวิกฤตต้นทุน
ในช่วงปีที่ผ่านมา หลายๆ คนคงเคยได้ยินชื่อ โรค Lumpy Skin ที่เป็นข่าวใหญ่อยู่ช่วงนึง โรค Lumpy Skin เป็นโรคอุบัติใหม่ในประเทศไทยพบครั้งแรกในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2564 จากการระบาดมาจากประเทศเพื่อนบ้าน โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสพบเฉพาะในโคกระบือเท่านั้น ไม่ติดต่อสู่คน มีพาหะนำโรคติดต่อระหว่างสัตว์และสัตว์ ได้แก่ เห็บ ยุง แมลงวัน
ผลกระทบจากโรค Lumpy Skin ส่งผลให้วัวนมส่วนนึงเสียชีวิตในปีที่ผ่านมา อีกทั้งเกษตรกรยังโดนผลกระทบจากวิกฤตต้นทุนแพงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมัน และอาหารสัตว์ เช่น มันสำปะหลัง และข้าวโพด เป็นเหตุให้เกษตรกรเรียกร้องขอขึ้นราคาน้ำนมดิบ และเกษตรกรหลายรายขายวัว หันไปประกอบอาชีพอื่นแทน
เมื่อจำนวนวัวนมลดลงจากโรคระบาด และต้นทุนการผลิตน้ำนมดิบที่สูงขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรโคนมมีลดลง ทำให้เกิดปัญหาซ้ำเติมสถานการณ์ Dry Cow ให้นมยิ่งขาดตลาดมากขึ้น
![นมสดพาสเจอร์ไรส์กับนมกล่อง UHT ต่างกันอย่างไร](https://www.lovefitt.com/system/wp-content/uploads/2022/10/lovefitt-meiji-dry-cow-img05.jpg)
นมขาดตู้!!! นมพาสเจอร์ไรส์ หายากขึ้น
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ปริมาณ Supply น้ำนมดิบของทั้งประเทศ ลดลงจาก 3,500 ตันต่อวัน เหลือประมาณ 3,000 ตันต่อวันในปีนี้
ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลิตภัณฑ์ นมพาสเจอร์ไรส์ หรือนมสดบรรจุขวด เช่น Meiji, Mmilk, Dutchmill, ไทยเดนมาร์ค และอื่นๆ ที่ต้องอาศัย Supply น้ำนมดิบในการผลิต เนื่องจากไม่สามารถหาน้ำนมดิบมาใช้ได้เพียงพอ อีกทั้งการผลิตนมแบบพาสเจอร์ไรส์จะเป็นการผลิตวันต่อวัน ใช้นมสด 100% และเป็นสินค้าที่มีอายุการเก็บสั้น จึงไม่สามารถกักตุน Supply น้ำนมดิบได้ ผู้บริโภคจึงเห็นได้ว่านมพาสเจอร์ไรส์ มีการขาดตลาด หาซื้อได้ยากขึ้นในช่วงเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา
ในขณะที่นม UHT หรือนมบรรจุกล่อง ยังคงมีขายตามปกติ เนื่องจากกระบวนการผลิตนม UHT บางแบรนด์ และบางรสชาติ โดยเฉพาะแบบที่มีการแต่งรส มักมีนมผงเป็นส่วนประกอบ ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่สามารถสต็อกเก็บไว้ได้นาน อีกทั้งนม UHT ยังสามารถเก็บไว้โดยไม่แช่เย็นได้ ดังนั้นธุรกิจนมแบบ UHT จึงได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำนมดิบขาดตลาด ค่อนข้างน้อยกว่าแบบพาสเจอร์ไรส์