Go to content

ประสบการณ์การลดน้ำหนักของคุณท็อป มาถูกทางลดน้ำหนักเรื่องเล็ก

คุณท็อปใช้เวลาปีกว่าๆในการลดน้ำหนัก ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เลือกการทานอาหารและหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทำให้สามารถลดน้ำหนักได้มากกว่า 70 กิโลกรัมเลยทีเดียว

before-after-khun-top

คนเก่งอีกหนึ่งคนที่ทางทีมงาน lovefitt ขอแสดงความยินดีและชื่นชมกับความสำเร็จในครั้งนี้ค่ะ คุณท็อปเลือกวิธีการลดได้ถูกทางและถูกกับสภาพร่างกาย โดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การทานอาหารและการออกกำลังกาย โดยทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่รีบร้อน น้ำหนักที่ลดได้จึงอยู่ได้ถาวร แถมมีรูปร่างที่ดี แข็งแรง อีกด้วย เรามาดูประสบการณ์ของคุณท็อปกันค่ะ กับ 73 กิโลกรัมที่หายไป มีเคล็ดลับอะไรกันบ้าง

สวัสดีครับผม
ผมอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การลดน้ำหนักของตัวเองให้ทางเพจ Lovefitt และเพื่อนๆในแฟนเฟจอ่านดูบ้างครับ ผมชื่อ ท็อป ครับผมเพื่อนๆพี่ๆน้องที่สนิทกันจะเรียกว่า ท็อปหมี เพราะเมื่อก่อนตัวอ้วนใหญ่เป็นหมีจริงๆครับ ฮ่าๆ ด้วยตอนนั้นเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วจุดที่น้ำหนักเยอะที่สุดคืออยู่ที่ 150+ กิโลกรัมครับ ไม่รู้ว่าบวกไปเท่าไรเพราะไปชั่งเครื่องชั่งที่ชั่งได้แค่150กิโลกรัมแล้วมันขึ้นError ต่อหน้าต่อตาเลยครับ ฮ่าๆ

แต่นั่นยังไม่ใช่จุดเปลี่ยนความคิดหรอกครับเพราะคิดว่าก็ยังไม่เห็นเป็นไร เราไม่ได้ป่วยอะไร แล้วเป็นคนอ้วนมาตั้งแต่เด็ก ม.3 ก็หนัก100กว่ากิโลกรัมแล้ว บวกกับเป็นชอบกินอย่างมาก เลยคิดว่าตัวเองลดไปก็คงลดไม่ได้ แต่จุดเริ่มต้นมันมาจากที่ว่าตอนเรียนปี4ใกล้จะจบ ร่างกายเริ่มไม่ปกติครับเหนื่อยง่ายมากแบบที่ไม่เคยเป็น หัวใจเต้นผิดจังหวะแปลกๆเต้นแรงบีบๆเหมือนเหนื่อยทั้งที่ก็นอนดูหนังอยู่เฉยๆ ความดันสูงด้วยครับ พอตรวจสุขภาพค่าก็ฟ้องว่าก็เริ่มเกินทุกอย่างทั้งไขมันน้ำตาล เลยมีความคิดจริงจังที่อยากจะลดน้ำหนัก เพราะไม่อยากป่วยจริงๆครับ เคยเห็นคนที่ป่วยด้วยโรคที่เกิดจากความอ้วนแล้วทรมานมากครับ เลยคิดว่าเราไม่อยากเป็นแบบนั้น ยิ่งตอนเรียนจบ กำลังจะเริ่มหางาน คิดว่าถ้าทำงานหาเงินได้มาสุดท้ายคงไม่พ้นต้องเอามารักษาตัวเป็นแน่ ดีไม่ดีต้องเดือดร้อนพ่อแม่พี่น้องอีก สรุปคืองกครับ กลัวไม่มีเหลือเงินไว้ใช้ในสิ่งที่อยากจะทำจริงๆ

เริ่มลดซะที

บรรยายมาซะนาน มาถึงจุดเริ่มต้นครับผมเริ่มโดยการไม่ได้หาข้อมูลอะไรเลยก็แค่เริ่มออกกำลังโดยการยกดัมเบลอยู่ที่บ้าน วิ่งบนเครื่องเล่นElliptical ตอนนั้นยังไม่รู้เรียกว่าอะไร แต่ที่บ้านซื้อมาไว้ครับ เล่นวันละ 30-45 นาที เพราะเคยรู้มาว่าต้องออกกำลังแบบต่อเนื่องกันให้ได้มากกว่า30นาที+ถึงจะได้ผล ออกกำลังไปแบบนี้ประมาณ 2เดือน ก็ไปซื้อเครื่องชั่งน้ำหนักครับเพราะอยากเริ่มรู้นน.ตัวเองเอาแบบที่ชั่งได้ Max 180โลมาครับยังหลอนตัวเองว่าเกิน150โลอยู่ ลงมาอยู่ประมาณ 147 กิโลกรัม พอนน.เริ่มลดก็เริ่มศึกษาข้อมูลเพิ่มครับว่าควรออกกำลังกับทานอาหารยังไง รวมถึงว่าทานอาหารเสริมดีไหม? ถ้าจะทานควรเลือกทานแบบไหน ซึ่งต้องบอกไว้ก่อนว่าผมรู้สึกว่าตัวเป็นคนที่เผาผลาญพลังงานไม่ค่อยดีครับ กินแล้วรู้สึกว่าอ้วนง่ายถึงแม้กินไม่ค่อยเยอะนน.ก็ขึ้นครับ

พอหาข้อมูลทั้งหมดได้เสร็จผมก็เริ่มจริงจังกับการลดน้ำหนักมากขึ้นครับ โดยหลักๆผมก็ออกกำลังคู่ไปกลับการเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน + กับการทานการอาหารเสริม รวมไปถีงคำนวนแคลลอรี่ที่ต้องเบิร์นออกต่อวันอย่างคราวๆครับซึ่งการหลักคำนวนผมก็ใช้ได้อ่านจากเฟจนี้แหลครับ

การออกกำลังกาย

การออกกำลังของผมช่วง 1 ปีแรกจะเน้นหนักไปที่การเบิร์นทำคาร์ดิโอครับ โดยการปั่นจักรยานหรือเล่นเครื่องElliptical ในฟิตเนสที่ๆทำงานตอนเย็นหลังเลิกงานเป็นเวลา30นาทีขึ้นไป เหมือนเดิมครับแต่จะมีการสลับการเล่นแบบปกติกับปั่นเร็วๆสลับกันเป็นการออกกำลังแบบ HITT ซึ่งทางเว็ปLovefittก็น่าจะเคยมีการพูดถึงไว้ครับ พอคาร์ดิโอเสร็จผมก็จะมายกเวทต่อครับอีกประมาณ 30 – 40 นาที ผมจะออกกำลังแบบนี้ให้ได้อย่างน้อย 3 วัน/สัปดาห์ครับ พอทำไปสัก7-8เดือนนน.ก็เริ่มมาอยู่ประมาณ110กิโลกรัม ก็เริ่มคิดว่าไหนๆจะลดนน.แล้วไม่อยากจะผอมอย่างเดียวอยากหุ่นดีด้วย เลยเริ่มปรับการออกกำลังใหม่เพิ่มการบอดี้เทรนนิ่งที่ดีมากขึ้นสร้างกล้ามเนื้อ เพราะนอกจากจะช่วยให้รูปร่างดูสมส่วนการสร้างกล้ามเนื้อยังช่วยให้เราลดนน.ได้มากขึ้นเพราะกล้ามเนื้อเป็นตัวใช้พลังงานยิ่งมวลกล้ามเนื้อมีมาก ร่างกายยิ่งใช้เบิร์นได้ดีขึ้น แล้วก็ทำแบบนี้มาเรื่อยๆครับ

กินอยู่อย่างคลีนๆ

ส่วนเรื่องการปรับพฤติกรรมการกิน หลักๆก็ลดการกินแป้งของมันๆ/หวาน น้ำหวาน น้ำอัดลม การกินขนมหลังจากทานข้าว จากกินขนมปังขาวก็มากินโฮลวีด หลีกเลี่ยงการกินดึกๆถ้าไม่ได้มีงานหรือสังสรรอะไรพิเศษหลัง 1 ทุ่มผมจะไม่ทานอะไรนอกจากน้ำเปล่า ยกเว้นถ้าเลิกงานดึกก็จะเป็นผลไม้แบบแอปเปิ้ลไม่ก็เป็นโยเกิร์ตLow fat สักถ้วยครับ มื้อเช้า – กลางวันผมจะทานปกติครับแต่ก็เป็นแบบลดแป้ง/หวาน/มันอยู่ เพิ่มผัก/โปรตีนให้อยู่ท้องเข้าไปแทน ส่วนเย็นก็เป็นสุกี้/แกงจืดบ้าง พยายามกินไม่ให้เกิน1ทุ่ม หรือวันไหนที่ออกกำลังเลิกดึกๆผมจะทำแซนวิชขนมปังโฮลวีดง่ายๆกินก่อนออกกำลังครับเพื่อที่เวลาเล่นจะได้มีแรงออก หลังเล่นเสร็จก็จะกินเวย์โปรตีนครับ แต่ถ้ายังหิวก็จะกินโยเกิร์ตสักถ้วยครับ แต่วันไหนไม่ได้ออกกำลังแล้วก็ไม่หิวก็จะโยเกิร์ตถ้วยเดียวแล้วจบเลยครับ ผมจะกินประมาณอยู่ตลอดครับ แต่ใน1อาทิตย์ผมจะมีวันโกงของผมคือกลับมากินปกติให้ร่างกายไม่รู้สึกว่าได้รับพลังงานน้อยจนเกินไปไม่งั้นร่างกายเราจะลดการเบิร์น Cal ลงไปครับ ซึ่ง2-3เดือน แรกผมไม่ได้ทำนน.ไม่ลงต่อเลยครับมันตันไม่ว่าคุมอาหารออกกำลังยังไง ผมเลยแก้ไขด้วยวิธีนี้ครับซึ่งได้ผลดีมากเลยครับ แต่ก็ต้องคุมตัวเองว่าอย่ากินเพลินจนเกินไปเมื่อถึงเวลาต้องกลับมาทำต่อก็ต้องกลับมาครับ

เรื่องการเลือกทานอาหารเสริมที่ผมทานนี่ไม่ใช่ยาลดความอ้วนนะครับ ผมจะทานพวกที่ช่วยให้ร่างกายเบิร์นพลังงานที่เป็นไขมันได้ดีขึ้นเท่านั้น ไม่ทานพวกที่ไปกินเพื่อไม่ให้รู้สึกหิว หรือไปบล็อคแป้ง/น้ำตาลไม่ให้เข้าไปสู่ร่างกายเพราะผลข้างเคียงร้ายแรงเยอะมากครับ น้องๆยาลดความอ้วนเลย พอหลังๆเริ่มเน้นการสร้างกล้ามเนื้อก็ทานพวกเวย์โปรตีนเสริมครับ หลักการทานของผมก็จะยึดตามตารางคำแนะนำที่เค้าให้ครับจะไม่ Overdose เด็ดขาดเพราะคิดว่าอันตรายครับ จริงเรื่องกินอาหารเสริมผมก็ถือว่าไม่ได้จำเป็นต้องกินนะครับถ้าเป็นคนระบบเผาผลาญปกติเพราะตัวหลักๆสำคัญจริงๆที่ทำให้นน.เราลดได้ก็คือกการออกกำลังกับการเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร ต่อให้อาหารเสริมที่กินดีแค่ไหนแต่ไม่ทำ2อย่างนี้ผมว่ากินไปก็เสียเงินเปล่าครับ

ผลจากความพยายาม

สรุปแล้วตอนนี้ผมนน.วิ่งอยู่ที่ราวๆ 85-87 กก.ครับ จากเดิม 150+กก. สัดส่วนจากรอบอกจากประมาณ 46-47 นิ้วรอบเอวประมาณ 48 นิ้ว ตอนนี้รอบอก 40 นิ้ว รอบเอว 34 นิ้วครับ ผมคิดว่าในการลดน้ำหนักทั้งการเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ต้องทำคู่กันไป คุมอาหารอย่างเดียวไปแรกๆนน.อาจจะลดลงแต่พอนานไปก็คงตันไปได้ไม่ไกล คุมไปมากๆก็อาจจะมีผลเสียต่อสุขภาพได้ พอกลับมาทานปกติก็อาจจะโยโย่ได้เหมือนกันครับ ส่วนออกกำลังแต่การกินไม่เปลี่ยนยังกินแป้ง/มัน/หวาน กินดึกๆมันก็ไม่น่าจะค่อยได้ผลเท่าไรจึงควรทำทั้ง2อย่างคู่กับไปครับ และในการลดนน.สำหรับผมไม่ควรยึดติดกับตัวเลขน้ำหนักตัวจนมากเกินไปครับผมคิดว่าแต่ละคนมีน้ำหนักที่เหมาะสมกับรูปร่างสัดส่วนต่างๆกันไปครับ อยากให้มองที่ขนาดของสัดส่วนรูปร่างว่าตอนนี้เหมาะสมกับตัวเองแล้วรึยังมากกว่าครับ

ผมอยากจะเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองครับอย่าใจร้อน ค่อยๆทำไป เราไม่ได้ใช้เวลาแค่ไม่กี่วันที่อ้วนขึ้นมามันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะผอมด้วยการทำเพียงแค่ไม่กี่วันหรืออาทิตย์เช่นกันครับ คนอ้วนมากๆแบบผมยังทำมาได้ใครๆก็ทำได้ครับถ้าตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองจริงๆ สู้ๆเค้านะครับ คุณไม่ได้กำลังพยายามอยู่คนเดียว ที่ผมอยากจะแชร์ก็มีเท่านี้ครับอาจจะพิมพ์ยาวไปหน่อยนะครับ ฮ่าๆๆ ผิดถูกผิดพลาดประการใดขออภัยมาที่นี้ด้วยครับผมขอบคุณเรื่องราวกำลังใจจากคุณท็อปอีกครั้งนะคะ อย่าลืมค่ะเรื่องลดน้ำหนักต้องใจเย็นต้องใช้เวลา ค่อยเป็นค่อยไป ใช้เวลาซักหน่อยแต่ผลนั้นยั่งยืนกว่า

References

Credit : คุณท็อป

Latest