Go to content

พลังงานในของหวานสุดฮิต ทานอย่างไรไม่เพิ่มน้ำหนัก

ขนมหวานสไตล์ Dessert Cafe ที่ฮิตติดลมบนกันอยู่ในตอนนี้ เรียกว่าคิวยาวแค่ไหนก็รอ แล้วขนมหวานตัวท็อปเท่านี้ให้พลังงานเท่าไหร่ วันนี้เรามาเรียนรู้เทคนิคการทานขนมเหล่านี้อย่างไรไม่เพิ่มน้ำหนักกัน

ตามห้าง ตามร้าน ทุกหัวมุมถนน เดี๋ยวนี้ก็มีร้านสไตล์ Dessert Cafe ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ด้วยค่านิยมที่การทานอาหาร และขนม เป็นเรื่องสร้างความบันเทิงบนโลกโซเชียล เวลาไปร้านขนม หรือ ร้านอาหารสวย ๆ เป็นต้อง ถ่าย โพส เทค และแชร์ เป็นเรื่องปรกติ เมื่อของหวานแสนอร่อย ไม่ใช่แค่กล้วยบวชชี แต่มันกลายเป็นขนมหวานแบบ ฝรั่ง ญี่ปุ่น และ เกาหลี สไตล์

ซึ่งแน่นอนขึ้นชื่อว่าเป็น ขนมหวาน ก็มีพลังงานไม่น้อย โดยเฉพาะ ขนมที่ได้อิทธิพลจากต่างชาติ ที่มักจะอุดมไปด้วย แป้ง ไขมัน นม เนย น้ำตาล ซึ่งการรับประทานขนมหวานเหล่านี้เป็นครั้งคราวไม่ใช่เรื่องผิด แต่ยังไงก็ต้องจำกัดปริมาณการรับประทาน และควรคำนวนพลังงานรวมๆ ดูว่าวันนั้นเราทานอะไรไปแล้วเท่าไหร่

กินขนมอย่างไรไม่เพิ่มน้ำหนัก

การทานขนมหวานเป็นตัวสาร้างความสุขได้อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ของหวานที่ฮิตๆ กันตอนนี้ ไม่ได้มีแค่ความหวาน ขนมหวานร้านดังที่คิวยาวๆ ต้องรอเป็นชั่วโมงๆ กว่าจะได้รับประทาน เป็นขนมที่มาแบบแพคเกจคอมโบ้ ทั้งแป้ง น้ำตาล นม เนย ชีส มาเต็ม แต่จะทำไงได้ ผิด ถูก ดี ชั่ว เรารู้หมด แต่อด และ ปฏิเสธชาวแก๊งไม่ได้ จะทำอย่างไรดี

กินขนมได้ไม่ผิด แต่ต้องมีสติ และรู้จักคำนวน

แหมพอพูดถึงการคำนวนทุกคน ร้องยี้กันเป็นแถว อย่าเพิ่งคิดว่าการคำนวนจะต้องตั้งโจทย์เลขถอดรหัส 5-6 ชั้น เปล่าเลย การคำนวนในที่นี่คือ การกะประมาณ ปริมาณอาหารในวันนั้นเสียก่อน ถ้าเราจะมีนัดไปทานขนมกับเพื่อนๆ ก็ลองลดอาหารมื้ออื่นๆ ลงเล็กน้อย เพื่อให้มีพื้นที่การรับพลังงานเหลือพอที่จะไปสุขสมกับขนมที่ชื่นชอบ กะปริมาณอาหารวันนั้นคร่าวๆ หรืออาจใช้วิธี ลดการทานอาหารประเภทแป้ง และน้ำตาลในวันนั้นลง เปลี่ยนเป็นอาหารจานผัก หรือเกาเหลา แทนการทานจัดหนักในบุฟเฟ่ และไปต่อขนมล้างปาก เตรียมตัวให้พร้อมแบบนี้ก็สามารถช่วยลดความกังวลลงได้มากโข

กินเป็นแก๊งรับผิดชอบร่วมกัน

สำหรับขนมที่เสิร์ฟใหญ่ๆ การแบ่งกัน แชร์กันทาน เป็นทางออกที่ดี เพื่อช่วยเฉลี่ยปริมาณพลังงานกันไป คนละเล็กละน้อย สั่งแค่พอรับประทาน ถามและตกลงกันให้ชัดเจนว่า จะสั่งอะไร และ จะกินกันปริมาณเท่าไหร่ จะได้ไม่ต้องเหลือทิ้ง หรือเหลือเป็นภาระให้ใครคนใดคนนึงเหมาหมดหน้าตัก คิดง่ายๆ ขนมอย่างฮันนี่โทส 1 จาน ให้พลังงานประมาณ 800 – 1000 kcal ชวนกันไปทานซัก 4 – 5 คน ก็รับพลังงานกันไปแค่คนละ 200 kcal เท่านั้น หรือถ้าเป็นขนมที่เป็นห่อ หรือ เป็นชิ้น ก็ให้อ่านฉลากโภชนาการให้เครีย แล้วใช้วิธีแบ่งทานทีละน้อย ตามปริมาณที่เหมาะสม ก็ช่วยให้ไม่ต้องอดทานขนมที่อยากทานแล้ว

รักจะกินต้องรักที่จะออกกำลังกายด้วย

เทคนิคนี้เป็นหลักการที่ช่วยให้เรามีความสุขกับการรับประทานมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องอดทานอาหารที่อยากทาน เพียงแต่ต้องกำหนดให้ทานเป็นครั้งคราวเท่านั้น ถ้าอยากทานของอ้วนๆ ทางแก้ก็คือไปทานซะให้หายอยาก ก่อนจะไปทาน หรือ หลังทาน ให้ปรับโปรแกรมการออกกำลังกายให้เข้มข้นขึ้นเล็กน้อย เพิ่มเวลา หรือ เพิ่มระยะทางในการเดิน วิ่งขึ้นจากเดิม หรืออาจจะเซ็ทวันที่จะทานขนม หรืออาหารที่อยากทานไว้เป็นมื้อโกงก็ได้ โดยถ้าเป็นอาหารคาวสามารถทานได้ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และของหวานจอมอ้วนให้จัดการทานเป็นเดือนละ 1-2 ครั้งก็ได้ การทำแบบนี้จะสามารถช่วยลดความเครียด จากการคุมอาหารในช่วงลดน้ำหนักได้ แต่ต้องมั่นใจว่าตลอดสัปดาห์ก่อนจะจัดหนักนั้น เราไม่บกพร่องเรื่องการคุมอาหาร และการออกกำลังกายเลย

จะทานทั้งทีก็ไม่ต้องเครียด

ในเมื่อตัดสินใจเลือกที่จะทาน หรือหลุดทานไปแล้วก็ไม่ต้องมากังวล หรือ จิตตกตามหลัง ไม่ต้องรู้สึกผิดใดๆ ทำใจให้สบาย และจงจำไว้ว่าการทานขนม และอาหารอ้วนๆ ครั้งเดียว มื้อเดียว ไม่ได้ทำให้น้ำหนักเราเพิ่มขึ้น ในขณะที่การทานอาหารคลีนมื้อเดียว ก็ไม่ได้ทำให้เราผอมลง แต่ตัวแปรของความสำเร็จนั้นมาจากความสม่ำเสมอต่างหาก เราอ้วนขึ้นเพราะเรากินของอ้วนๆ ปริมาณเยอะๆ ซ้ำๆ ทำจนเป็นนิสัย สติหลุดเป็นประจำ ดังนั้นหากเราผอมลงได้ ก็เพราะเราคุมอาหารดี และออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ฉันใดฉันนั้น

มาดูกันดีกว่า ขนมสุดฮิตในยุคนี้พลังงานเท่าไหร่

ข้อมูลนี้ผลิต และเผยแพร่โดยศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อ ประเภทเครื่องสำอางค์/ยา ฉบับที่ 167 โดยนำเอาเมนูเด่นของร้านดังในยุคนี้ ที่คนนิยม และชื่นชอบ ถึงจะต้องต่อคิวเป็นชั่วโมงก็ยอม มาทำการทดสอบหาค่าสารอาหารว่ามีปริมาณเท่าไหร่ ซึ่งถ้าเป็นขนมในลักษณะเดียวกัน เช่นฮันนี่โทส หรือบิงซู สูตรอื่นๆ ก็บวกลบประมาณ 100-150 kcal และสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปเทียบเคียงเพื่อเป็นข้อมูลประกอบ ในการเลือกรับประทานครั้งต่อไปได้

บิงซู ขนมหวานสัญชาติเกาหลี ลักษณะเป็นเกร็ดน้ำแข็ง ทำจากนม ขูดให้ฟูนุ่ม เสิร์ฟพร้อม Topping หลากหลาย ทั้งผลไม้ต่างๆ ชีสเค้ก คุ๊กกี้ ช็อกโกแลต ฯลฯ

บิงซู Mango Cheese Snow flakes Sherbet
หน่วยบริโภค 1 ถ้วย
พลังงานต่อเสิร์ฟ 912 kcal
ไขมันรวม 32 กรัม
โปรตีน 19 กรัม
น้ำตาล 116 กรัม

ข้าวโพดคั่ว เคลือบรสรวม ข้าวโพดคั่วเมล็ดใหญ่ เคลือบรสชาติต่าง ที่ช่วงเปิดใหม่ๆ มีคิวยาวล้นออกมานอกห้าง รสชาติมีทั้งหวาน และเค็ม รสชาติเข้มข้น คาลาเมล ชีส และผสมถั่วชนิดต่างๆ

ข้าวโพดคั่ว เคลือบรสรวม
หน่วยบริโภค 1 ถุง (ขนาดเล็ก 150 กรัม)
พลังงานต่อเสิร์ฟ 820.5 kcal 
ไขมันรวม 48.9 กรัม
โปรตีน 5.25 กรัม
น้ำตาล 53.55 กรัม

ฮันนี่ โทสต์ เมนูของหวานสไตล์ญี่ปุ่นที่ฮิตไม่เลิก ขนมปังหอมนม เนื้อนุ่มเหนียว ชุ่มเนย อบจนกรอบนอกนุ่มใน ที่มาพร้อม ไอศครีม และ Topping แถมเสิร์ฟพร้อมน้ำผึ้งอีกต่างหาก

ฮันนี่ โทสต์
หน่วยบริโภค 1 จาน (250 กรัม)
พลังงานต่อเสิร์ฟ 802.5 kcal
ไขมันรวม 44.24 กรัม
โปรตีน 9.75 กรัม
น้ำตาล 36.75 กรัม 

แพนเค้ก เค้กที่ทำบนกระทะ ฝรั่งนิยมทานเป็นอาหารเช้า และทำเป็นของหวาน เสิร์ฟพร้อมไอศครีม Topping ต่างๆ เวลาทานจะทานคู่กับน้ำเชื่อมต้นเมเปิ้ล ที่มีกลิ่นหอม เป็นเอกลักษณ์ 

แพนเค้ก เสิร์ฟพร้อมไอศครีมนม
หน่วยบริโภค 1 จาน (250 กรัม)
พลังงานต่อเสิร์ฟ 617.5 kcal
ไขมันรวม 38.25 กรัม
โปรตีน 12.75 กรัม
น้ำตาล 35.25 กรัม

ชูครีมรสวนิลา ขนมสัญชาติฝรั่งเศส ที่มีรสชาติ และสัมผัสเป็นเอกลักษณ์ กรอบเบา ไส้เป็นครีมเนื้อนุ่มละมุน หอมกลิ่นวนิลา มีรสหวานอ่อนๆ

ชูครีมรสวนิลา
หน่วยบริโภค 1 ชิ้น (46 กรัม)
พลังงานต่อเสิร์ฟ 133.4 kcal
ไขมันรวม 9 กรัม
โปรตีน 2.34 กรัม
น้ำตาล 3 กรัม

ขนมปังปิ้งราดสังขยา ขนมปังปิ้งแบบไทยๆ ที่ตอนนี้ก็ยังคิวยาว ขนมปังกะโหลกปิ้ง ราดด้วยสังขยาเยิ้มๆ อุ่นๆ ที่อร่อยหอมมันกะทิ กลิ่นใบเตย และไข่

ขนมปังปิ้งราดสังขยา
หน่วยบริโภค 1 แผ่น (85 กรัม)
พลังงานต่อเสิร์ฟ 268.6 kcal
ไขมันรวม 14 กรัม
โปรตีน 4.8 กรัม
น้ำตาล 10.4 กรัม

คิทแคทรสชาเขียว ขนมไอเทมนี้ ถือเป็นขนมของฝากสุดฮิต ที่เมื่อใครไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น เป็นต้องซื้อกลับมาฝากเพื่อนฝูง เป็นเวเฟอร์กรอบเคลือบช็อกโกแลตนมกลิ่นชาเขียวเข้มข้น

คิทแคทรสชาเขียว
หน่วยบริโภค 1 ชิ้น (12 กรัม)
พลังงานต่อเสิร์ฟ 67.56 kcal
ไขมันรวม 4.1 กรัม
โปรตีน 0.5 กรัม
น้ำตาล 4.2 กรัม

คิดว่าคงโดนและถูกใจกัน ส่วนใครชอบทานอะไร ก็อย่าลืมใช้สติคำนวนปริมาณพลังงานให้ดี และ ต้องไม่ลืมที่จะออกกำลังกายกันด้วยนะ

 

เรียบเรียง: lovefitt.com
Credit: ศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อ ประเภทเครื่องสำอาง/ยา ฉบับที่ 167

Latest