Go to content

มารู้จักโรคมะเร็งเต้านมกันเถอะ

ในปัจจุบันผู้หญิงไทยมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ๆ อย่างกรุงเทพ เชียงใหม่ ขอนแก่น ลำปาง และมะเร็งเต้านมถือว่าเป็นมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้หญิงไทยแซงหน้ามะเร็งปากมดลูกไปแล้ว

ในปัจจุบันผู้หญิงไทยมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ๆ อย่างกรุงเทพ เชียงใหม่ ขอนแก่น ลำปาง และมะเร็งเต้านมถือว่าเป็นมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้หญิงไทยแซงหน้ามะเร็งปากมดลูกไปแล้ว จากข้อมูลทะเบียนมะเร็งของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ รายงานว่ามีผู้หญิงไทยป่วยเป็นมะเร็งเต้านมรายใหม่ประมาณ  20,000 คนต่อปี หรือ 55 คนต่อวัน  ที่สำคัญพบว่าจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมมีการเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยพบอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งเต้านมหญิงไทยอยู่ที่ 17 รายต่อประชากร 1 แสนคน ในปี พ.ศ. 2540  เทียบกับ 21 รายต่อประชากร 1 แสนคน ในปี พ.ศ. 2546

สถิติผู้ป่วยใหม่ มะเร็งเต้านมในประเทศไทยมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกปีและคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ปี จำนวน
2533 3,300 ราย
2536 4,223 ราย
2539 5,592 ราย
2542 7,106 ราย
2550 8,000 ราย

โรคมะเร็งเต้านมจาก ที่เคยทราบมาว่ามะเร็งเต้านมเป็นโรคของผู้หญิงสูงวัย หรือหญิงวัยทอง แต่จากการศึกษาของกลุ่มศัลยแพทย์ในประเทศไทยกลับพบว่า อายุเฉลี่ยโดยประมาณที่เริ่มเป็นมะเร็งเต้านมอยู่ที่ 40 ปี น้อยกว่าตัวเลขของต่างชาติถึง 10 ปี ทั้งยังพบมากขึ้นเรื่อยๆในผู้หญิงอายุน้อยๆ ซึ่งล่าสุดพบว่า เด็กหญิงอายุเพียง 16 ปีก็เป็นมะเร็งเต้านมแล้ว

สาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งเต้านม

จากการึกษาพบกว่าปัจจัยในการเกิดมะเร็งเต้านมนั้นมาจาก ปัจจัยทางพันธุ์กรรม 5-10%, การรับประทานอาหารที่มีปริมาณไขมันสูง, การไม่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ, การรับฮอร์โมนภายนอกเป็นระยะเวลานานกว่า 5-10 ปี ไม่ว่าจะเป็นยาเม็ดคุมกำเนิด ฮอร์โมนทดแทนในวัยทอง ก็ล้วนแล้วแต่ทำให้เพิ่มความเสี่ยงได้

การป้องกันโรคมะเร็งเต้านม

เราสามารถป้องกันมะเร็งเต้านมได้ ด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ งดการทานอาหารที่มีไขมันสูง ระมัดระวังการรับประทานฮอร์โมนทดแทน และควรหมั่นตรวจเช็คเต้านมด้วยตนเอง และโดยแพทย์เป็นประจำ

การตรวจเต้านมด้วยตนเอง

การตรวจเต้านมด้วยตนเองนั้นควรทำอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เมื่ออายุ 20 ปีขึ้นไป และตรวจเต้านมโดยแพทย์ ทุก 3 ปี ตั้งแต่อายุ 20 ปี เป็นต้นไป หลังจากอายุ 40 ปี ควรได้รับการตรวจทุก 1 ปี  และควรทำแมมโมแกรม หรือ อัลตราซาวน์ในช่วงอายุ 35-40 ปี 1 ครั้ง  หลังจากอายุ 40 ปีเป็นต้นไปควรทำทุก 1-2 ปี นอกจากนี้ ในผู้ป่วยที่มีประวัติ ญาติสายตรงเป็นมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งรังไข่ ควรเริ่มทำการตรวจตั้งแต่อายุที่ญาติเป็นลบออก 5 ปี

สิ่งที่ตรวจพบที่ต้องระวังและมาพบแพทย์

ถ้าเจออาการต่อไปนี้ ก้อน หรือ เนื้อเต้านมหนากว่าปกติ ผิวหนังแดง หรือร้อน รูขุมขนใหญ่ขึ้นเหมือนผิวส้ม ผิวหนังบุ๋มหรือมีการหดรั้งมีการนูนของผิว ปวดกว่าปกติที่เคย คัน มีผื่น โดยเฉพาะบริเวณหัวนม และฐานรอบหัวนม หัวนมบุ๋ม การชี้ของหัวนมเปลี่ยนทิศทาง เลือดไหลออกจากหัวนม หรือมีแผลที่หายยากของเต้านมหรือหัวนม

References

เรียบเรียง : lovefitt.com

  • มะเร็งเต้านมโดย นพ.ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ
  • คลินิกโรคเต้านม (Breast Clinic) โรงพยาบาลพญาไท

Latest